ตอนที่สาม
//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=243520.0
ถีบจักรยานไปสามช่วงตึกถึงคลีนิกหมออัลโตที่ลุงมาร์คัสกับเจ้าอันเดรียสช่วยกันหามผมมารักษาไข้เมื่อปลายปีที่แล้ว ลูกสมุนหนุ่มรุ่นกระทงเล่าว่าคนเม็กซิกันละในแวกนี้เป็นญาติกันหมดรวมทั้งเขาและหมออัลโตด้วย หมออัลโตตามพ่อแม่ข้ามมาจากฝั่งโน้นตั้งแต่สมัยเด็ก ได้มีวาสนาร่ำเรียนแต่เมื่อเรียนจบแล้วเขาก็ยังตัวติดดิน นำเอาวิชาความรู้กลับมาเป็นที่พึ่งในยามยากให้พี่น้องร่วมเชื้อชาติล่วงเลยมาแล้วกว่าสี่สิบปี
“ยานอนหลับแบบที่กินแล้วไม่ตาย..” หมออัลโตนึก
“มันก็ไม่ตายทั้งนั้นแหละถ้าไม่ได้กินเกินขนาด นายคงไม่ได้จะเอาไปฆ่าใครใช่มั้ย”
“ป่าวคับพอดีช่วงนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับจะซื้อยากินเองก็กลัวจะหลับไม่ตื่น เลยมาขอจากลุงหมอน่าจะปลอดภัยกว่า” หมออัลโตลุกหันไปหยิบขวดโหลใส่ยาสีชาเข้มจากตู้
“ผู้ชายกินเม็ดเดียว แต่ถ้านายคิดจะมอมยาผู้หญิงกินหักให้กินแค่ครึ่งเม็ดก็พอ” หมออัลโตมองลอดแว่น ผู้ชายด้วยกันมองตาก็เข้าใจ
“ผมขอไปกินเองครับไม่ได้จะให้ใครกิน” หัวเราะแก้เก้อ คล้ายหมออัลโตจะรู้ทันแผนการ
“คนเอเชียไม่ชอบพูดตรงๆ ผู้ชายเม็กซิกันมีเมียเป็นขโยงเพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพวกเรารู้สึกอย่างไรก็บอกกันตรงๆ แม่สาวคนนั้นคงต้องสวยเร้าใจขนาดที่อิฐหักห้ามใจต่อไปไม่ไหว ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลสินะ”
“บอกให้พวกเธอรู้อธิบายให้เข้าใจ พวกเราผู้ชายเม็กซิกันทำแบบนั้น” หมออัลโตจับไหล่สบตาผมด้วยความเป็นห่วง “รู้สึกยังไงก็พูดไปจะดีดกีตาร์ร้องเป็นเพลงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งยานั่นหรอก”
“ขอโทษครับที่โกหกครับ” ผมยกมือไหว้ “แฟนผมเพิ่งมาจากเมืองไทยแต่ดันมีเพื่อนมาด้วย เพื่อนมันป่วนตลอดเวลาคอยตามสกัดดาวรุ่ง ผมก็เลยจะหลอกให้มันกินยานอนหลับสิ้นเรื่องสิ้นราวจะได้มีเวลาจูจี๋กับแฟนเต็มที่โดยไม่มีก้างขวางคอ” ผมสารภาพ
“พวกผู้หญิงจะยอมสยบแทบเท้าเราก็ต่อเมื่อเราได้แสดงความกล้าหาญให้พวกเธอเห็นก่อน เป็นลูกผู้ชายต้องที่จะกล้าเปิดเผยความในใจกับคนที่เราชอบ ชมพวกเธอว่าสวยแค่ไหนไม่มีชายคนใดปฏิเสธความงดงามทรวดทรงแสนสะท้าน..”
“ลุงหมอคับ .. ผมขอซักสามสี่เม็ดก็พอคับ” ผมรีบตัดบทกลัวจะยาวยืดรุงรังไปกันใหญ่ เคยได้ยินว่าเมื่อพบผู้ชายดีๆมีหลักฐานเป็นที่พึ่งพาได้ ฝ่ายหญิงเสียอีกที่เรียกเพื่อนฝูงญาติพี่น้องให้มาร่วมชายคาจนบางคนมีเมียนับสิบ ไม่กล้าถามว่าหมออัลโตมีเมียกี่คน
“งั้นผมขอตัวเลยนะครับ”
“เดี๋ยว ..เดี๋ยว รอแป๊ปนึง” หมออัลโตเดินออกไปนอกห้องตรวจครู่ใหญ่
“เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยดูแลเจ้าสองคนพี่น้อง ผมมีของตอบแทนเล็กๆน้อยๆจะให้” หมออัลโตยิ้มมุมปากยื่นวัตถุสีน้ำตาลเข้มเกือบดำทำจากรากไม้ รูปทรงรีคล้ายลูกรักบี้แต่ขนาดเล็กพอดีอุ้งมือ ดูเป็นของเก่าแก่มีอายุ
“โอโจบุชโช ojo busho นัยน์ตาพายุ” หมออัลโตบอกชื่อของมัน
“นัยน์ตาพายุ..” ด้านหนึ่งผิวเรียบส่วนอีกด้านขรุขระแกะสลักเป็นเค้าโครงคล้ายดวงตามนุษย์ แต่จุดศูนย์กลางของดวงตาแทนที่จะเป็นลูกนัยน์ตา กลับกรีดบาดคว้านเป็นริ้วรอยร่องหยักลึกตามแนวยาว
“นัยน์ตาพายุ” ผมพลิกซ้ายพลิกขวาพินิจพิจารนา
“โอโจบุชโช..” หมออัลโตสบตายิ้มมุมปากอย่างมีนัย
“หยิบผิดอันป่ะคับลุงหมอ ผมว่าอันนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนนัยน์ตา ผมว่ามันเหมือน..หอย เห็นแล้วนึกถึงหอยนางรม”
“ตรงนี้มีรูเล็กๆ” หมออัลโตชี้ “สมัยก่อนเวลาที่พวกผู้ชายเม็กซิกันต้องเดินทางห่างบ้านเป็นเวลานานๆไม่ว่าจะค้าขายหรือทำสงครามจะพกเจ้าสิ่งนี้ติดตัวไปด้วยเสมอ เอาดีเอ็นเอผู้หญิงของเราใส่ลงไปในรูเล็กๆนี่ เล็บ เส้นขน ผม แต่ถ้าขนตรงที่ลับจะได้ผลเข้มขลังที่สุด”
“ค่ำคืนที่อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเพียงถูตรงนี้เบาๆ ผู้หญิงของเราจะรับรู้ได้ สัมผัสได้ และจะไม่คิดปันใจให้ชายอื่นในระหว่างที่ผัวไม่อยู่บ้าน” หมออัลโตเอานิ้วถูไถติ่งนูนบริเวณขอบหัวตา
“ชัดเลย..แบบนี้ไม่ใช่นัยน์ตาพายุแล้วฮะผมว่าน่าจะเรียกว่าโยนีพายุมากว่า” นึกอยู่แล้วว่ารูปทรงมันดูคุ้นๆตาแปลกๆยังไงชอบกล
“ขอพรเจ้าแม่โอโจเทพีแห่งพายุ อธิษฐานแล้วจะสมปราถนา ไม่จำเป็นต้องใช้ยานอนหลับพวกนั้นเลย” หมออัลโตจับไหล่ส่งสายตาห่วงใย ดูเหมือนแกจะไม่ฟังที่ผมพยามอธิบายสักนิด
ปาร์ตี้เล็กๆที่บิ๋มเป็นคนริเริ่ม ข้าวผัด ต้มฟักกระดูกหมู น่องไก่ทอด เครื่องดื่มนิดหน่อย กุศโลบายเรียบง่ายที่เธอจะได้แจกนามบัตรทำความรู้จักกับบรรดาสาวๆในบ้าน และไม่เหน็ดเหนื่อยที่จะแนะนำตัวซ้ำๆกับทุกคนว่าเธอเป็นแฟนผม
แอมแปร์นั่งเล่นมือถือไม่สนใจโลก หมอพีทกลายเป็นดาวเด่นในวงสาวๆ เขาโอภาปราศรัย แต่งตัวดีหน้าตาผมเผ้าเกลี้ยงเกลาอกผายไหลผึ่งหน้าที่การงานเป็นหลักเป็นฐานพึ่งพาได้ เป็นเจ้าของบ้านริมทะเลสุดชิคแถมยังโสดสนิท ถึงจะสูงอายุสักหน่อยแต่ก็สมบูรณ์แบบอย่างที่ผู้ชายคนนึงควรจะเป็น สายตาที่อาหมอพีทมองน้องเพลินมันชวนให้อารมณ์เสียยังไงชอบกล
“ที่นี่มันคือเมืองแห่งโอกาส จริงๆมายากนะอุตส่าห์มาเหยียบได้แล้วบอกตามตรงว่าไม่อยากให้ใครกลับซักคนเลย อยู่ยาวๆสิบยี่สิบปีหาทำโน่นทำนี่โกยเงินสนุกๆไปเรื่อย” หมอพีทยิ้มโปรยเสน่ห์
“อยากอยู่ค่ะแต่อยู่ไม่ได้ พวกหนูต้องกลับไปใช้ทุน”
“ยัยเพลินนี่ไงอยู่ยาว ต้องอยู่ถึงป.เอก”
เจ้าอันเดรียสแอบสะกิดพลางบุ้ยหน้าไปทางประตูรั้ว น้องแก้มแต่งตัวสวยคล้ายชุดโฮสต์เดินตัวเซหน้ามุ่ยตามด้วยแฟนหนุ่มที่ดูเงียบๆไม่ค่อยเริงร่าบ้าพลังอย่างเคย น้องแก้มทรุดตัวลงนั่งข้างสามสาว แฟนหนุ่มยิ้มทักทายทุกคนพลางฉุดแขนแต่น้องแก้มสะบัดอย่างแรงหน้าตาไม่สบอารมณ์ สบถคำหยาบในลำคอ เธอกำลังเมาแถมยังเหวี่ยง
“ร่วมวงด้วยกันก่อนสิครับกำลังคุยสนุกเลย” หมอพีทยิ้มชวน
“คืนนี้ขอตัวดีกว่าครับ พอดีแฟนเมามากดื่มมาจากที่ร้าน” แฟนหนุ่มบ้าพลังพยามประคองตัวน้องแก้มให้ลุกขึ้นแต่เธอแข็งขืนตัวไม่ยอมง่ายๆ
“นั่งก่อนเถอะแบงค์อย่าทำรุนแรงกันเลย” ผมยื่นขวดเบียร์ให้แต่น้องแก้มแย่งคว้าไปยกซดโฮกอย่างโหยกระหาย ดูทรงแล้วคู่นี้คงจะทะเลาะอะไรกันแรงๆสักอย่างปกติจี๋จ๋าตัวติดกันจะตาย
“เมื่อกี๊คุยถึงไหนแล้วนะ” หมอพีทถาม
“เอ่อ.. อาหมอคะ หนูมีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ” น้องทิพย์ที่นั่งเงียบอยู่นานยกมือถาม
“หืม.. ว่าไงจ๊ะ”
“คือ .. เอ่อ … ที่หอพักนักศึกษาใหม่เค้ามีประเพณี.. เอ่อ ต้อง แก้ผ้า วิ่งจากประตูรั้วเข้าหอ .. ค่ะ คือ หนู .. เอ่อ ไม่อยากวิ่ง” น้องทิพย์พูดเสียงเบา “แต่ทีนี้ถ้า หนูไ ม่วิ่ง..”
“แล้วต้องทำแบบนั้นทุกคนไม่มีข้อยกเว้นรึเปล่าล่ะ”
“..เค้าว่าทุกคนค่ะ แล้ว คือ มันจะมีรุ่นพี่ยืนคอยดูอยู่ด้วย”
“ประเพณีบ้าๆบอๆแบบนี้คงมีเจตนาจะสลายพฤติกรรมหรือมีวัตถุประสงค์อะไรซักอย่าง กลางวันหรือกลางคืน” หมอพีทสนใจถามต่อ
“หกโมงเย็นค่ะ แจกกุญแจห้องแล้วให้วางกระเป๋าถอดเสื้อผ้าไว้ที่ประตูรั้ว แล้วก็วิ่งเข้าไปพร้อมกันหาห้องใครห้องมัน”
“แล้วกระเป๋าอ่ะ”
“เดี๋ยวเค้าเอามาให้ที่ห้องค่ะ”
“เห็นว่ามันชอบเอาอะไรมาวางกีดขวางทางวิ่งด้วยนะ เคยเอาที่นอนมาแกล้งสุมๆสูงให้พวกเด็กใหม่ปีนข้ามแล้วยืนหัวเราะกันอ่ะ” น้องเอิงปลอบใจเพื่อน
“เหมือนรับน้องหอพักเงี้ยอ่ะเหรอ แล้วหลายคนมั้ย”
“น่าจะเป็นร้อยคนค่ะ ส่วนใหญ่เป็นพวกป.ตรี ป.โทป.เอกมีไม่กี่คน น้องทิพย์หน้าเสีย
“อายเด็กมันอ่ะดี๊แม่ให้มาน้อย” น้องเอิงมองต่ำ
“ก็คิดซะว่าเห็นก็เห็นไปเห็นแต่ก็เอาไปไม่ได้ หลับหูหลับตาวิ่งไปเถอะชั่งมันหกโมงเย็นความจริงก็มืดแล้ว” หมอพีทปลอบ
“ที่เมกาเค้ามองเรื่องทะลึ่งๆพวกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นความสนุกสนานเพิ่มรสชาติให้ชีวิต” ฉับพลันน้องแก้มวางขวดเบียร์กระแทกปั้ง!ลงบนโต้ะ สองมือดึกเลิกชายเสื้อสายเดี่ยวรวบยกทรงขึ้น บิดตัวแอ่นหน้าอกซ้ายขวาสองเต้าคัพซีขาวนวลเนียนเต่งตึงหัวนมสีน้ำตาลไหม้ชูชันปรากฏคว้างต่อหน้าทุกคน ผมสบตากับบิ๋มถอนหายใจแสร้งทำเป็นไม่อยากมอง เจ้าอันเดรียสจ้องของแปลกไม่วางตา
“นี่ไง เห็นแต่ก็เอาไปไม่ได้ ผู้ชายก็มีนมผู้หญิงก็มีนมเรื่องธรรมชาติไม่เห็นต้องอายเลยค่ะพี่ทิพย์” ทั้งโต้ะกำลังอยู่ในอาการตะลึงตาค้างไม่นึกว่าอยู่ดีๆน้องแก้มจะโชว์ของดีประชดแฟน
“ชอบโชว์เหรอนักเหรอ ดี !!” เจ้าแบงค์ยอมไม่ได้ดูท่าน่าจะเมาพอกัน ลุกขึ้นยืนถอดเข็มขัดรูดกางเกงลงเลิกชายเสื้อตัวเองขึ้นเห็นซิกแพ็ค หันไปทางสามสาวผนังห้องติดกัน เจ้ามังกรวัยรุ่นของมันยังหลับสนิทเหี่ยวหัวห้อย เจ้าหนุ่มทำท่าจะสาวมือปลุกมันให้ตื่นต่อหน้าน้องเพลินและเพื่อน
“เฮ้ย!! .. พอ! เชี่ยอะไรของมึงเนี่ย ไป ไป เมาแล้วก็พาแฟนเข้าห้องไปนอนเลยไป” ผมตัดบทเบรกเอี๊ยดจนเจ้าอันเดรียสกับหมอพีทหันมามองหน้าส่งสายตาเคืองๆ
“ก็กูบอกแล้วว่ามันเมาแม่งก็เสือกชวนให้นั่งอยู่ได้! ค้วย..!” เจ้าแบงค์สบถใส่หมอพีทก่อนประคองน้องแก้มเข้าห้อง หันมาอีกทีเจ้าอันเดรียสชิ่งหายหัวไปแล้วทั้งที่สั่งห้ามแอบดูใครในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด
“พอเหอะนะคืนนี้ แยกย้ายเข้าห้องดีกว่าดึกแล้วด้วยเดี๋ยวตำรวจมา” ผมบอก
“ไม่เป็นไรน้องอิฐเดี๋ยวพี่ดูให้ได้พวกตำรวจมันไม่มาหรอก คุยกันไปเรื่อยๆเบียร์ยังไม่หมดเลย” หมอพีทออกตัว “แอมล่ะง่วงยัง”
“ยังค่ะ” แอมแปร์เงยหน้าจากโทรศัพท์
“ถ้ายังไม่ง่วงก็นั่งเล่นคุยกันก่อน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“อ่อ.. ค่ะ บิ๋ม แกนั่งกับชั้นก่อนนะ พี่อิฐง่วงแล้วนอนก่อนก็ได้ค่ะ”
“เอ่อ .. งั้นเดี๋ยวพี่เข้าห้องไปดูที่หลับที่นอนมาเพิ่มก่อนนะ”
“แอมนอนกับบิ๋มบนเตียงพี่อิฐละกันเมื่อกี๊เปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้ว”
“อ่าว แล้วพี่จะไปนอนไหนอ่ะ”
“ไม่รู้สิคะบ้านพี่อิฐนี่” แอมแปร์ยักไหล่
หันกลับมาอีกทีเห็นบิ๋มกำลังใส่ยาเม็ดเข้าปากพลางดื่มน้ำตามห้ามไว้ไม่ทัน
“กินยาไรอ่ะ”
“ยาแก้แพ้พิษตัวคุ่น อาพีทให้ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน รู้สึกคันยุบยิบก็เลยกินกันไว้ก่อน”
“อาพีทให้ยาอะไรบิ๋มกินอ่ะ” ผมหันไปถาม
“อ๋อ ไม่มีอะไร ยากันแพ้พิษตัวคุ่น”
“ตัวคุ่น..!” ทุกคนพูดพร้อมกันจังหวะซิทคอม
“ก็ตอนแรกคิดว่าจะไปเที่ยวบ้านชายทะเลกัน ช่วงเวลานี้แถบทะเลทรายมันจะมีตัวคุ่นเยอะบางคนแพ้พิษแผลจะรักษาหายยาก ก็เลยให้ยาน้องบิ๋มกินไว้ก่อน”
“แล้วบิ๋มโดนกัดเหรอถึงต้องกินยาอะไรก็ไม่รู้เนี่ย! ไม่มีอะแถวนี้ ตัวคุ่น!”
“ก็ไม่รู้สิ รู้สึกคันๆอ่ะ” บิ๋มหน้าเสียที่โดนผมดุ
“ไม่มีอะไรหรอกน้องอิฐแค่ยาแก้แพ้ธรรมดาไม่ง่วงด้วย กินซะให้หมดจะได้ไม่เผลอติดตัวตอนกลับไปเมืองไทยเดี๋ยวมีปัญหา”
“แก ขอชั้นเม็ดนึงสิชักจะคันๆขึ้นมาเหมือนกันแล้ว ทรายทั้งนั้น” แอมแปร์บ่น
“อยู่ในกระเป๋าในห้อง แกขออาพีทสิ”
“ของอาก็อยู่ในรถ เดี๋ยวไปหยิบมาให้”
“งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบมาให้เอง อยู่ไหนนะบิ๋ม” ผมรีบฉกฉวยโอกาส
“กระเป๋าเล็กใบสีฟ้าอ่ะ”
ผมย่องแอบมาดูก็เป็นอย่างที่คิด เจ้าอันเดรียสเดินสวนออกมาส่ายหน้าโบกมือบอกไม่มีอะไรในกอไผ่ แม่ม..กูเพิ่งสั่งห้ามมึงอยู่หยกๆ อาหมอพีทกำลังเล่าเรื่องสนุกๆสมัยยังทำงานเป็นหมอให้สาวๆฟัง ผมทำเนียนๆส่งเม็ดยาของหมออัลโตให้แอมแปร์พร้อมแก้วน้ำ นี่..เสริฟถึงปากเลยอีนรก
“พี่ๆคะ..” น้องทิพย์เสียงดังทะลุกลางปล้อง คว้าขวดเบียร์ของน้องแก้มมาดื่มอักๆเช็ดปาก “พี่ๆ คะ” เธอหลับตาปี๋เลิกเสื้อยืดขึ้น สองเต้ากลมกลึงอัดแน่นจนสปอร์ตบราสีดำดูตกไซส์ตัวเล็กกว่าขนาดก้อนเนื้อปลี้นออกมาด้านข้างน่าอึดอัดแทนมาก เพื่อนสาวสองคนอ้าปากค้างพลันน้องทิพย์ขยับมือจับขอบยกทรงเลิกขึ้น สองเต้าคัพดีกระเพื่อมหลุดพ้นพันธนาการหัวนมสีชมพูเข้มขนาดปลายนิ้วก้อยแข็งเป็นก้อน หมอพีทตะลึงมองจ้องตาค้าง แอมแปร์รีบยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายคลิปเก็บเป็นไว้ที่ระทึก
น้องเอิงจ้องเนื้อนมไข่แม่ให้มาของเพื่อนสาวอย่างอิจฉากลืนน้ำลายเอื้อก น้องทิพย์ยืนห่อตัวลีบค้างอยู่ท่าเดิมเป็นนานสองนานค่อยๆหรี่ตามองปฏิกริยาของทุกคน แต่ไหนแต่ไรมาที่ทนอับอายกับนมใหญ่ยักษ์คู่นี้ ถึงแม้จะตั้งใจเรียนจนได้เกรดสี่ทุกวิชาประพฤติตัวดีแค่ไหนแต่ทุกคนกลับชอบมองแต่หน้าอกหน้าใจของเธอ แม้คณะกรรมการสัมภาษณ์ทุนมาเรียนต่อก็ยังอดใจไม่มองมันไม่ได้ สิ่งใดจะประเสริฐเท่าการยืดอกยอมรับความจริง อารมณ์ขุ่นมัวถูกปลดเปลื้องไปพร้อมกับเสื้อชั้นในซ่อนรูปคับติ้วสุดอึดอัด น้องทิพย์สูดลมหายลึกใจยาวโปร่งโล่งเย็นสบายเต็มปอดถอดเสื้อออกจนหมด ท่อนบนของเธอเปลือยเปล่าสองเต้าชวนมอง นึกไม่ออกว่าน้องทิพย์ซ่อนไฟหน้ารถพ่วงสิบแปดล้อสว่างจ้าขนาดนี้ไว้ในยกทรงตัวกระจิ๋วนั่นได้อย่างไร
"ถอดเสื้อนานๆระวังจะไม่สบายนะ" ผมเตือน
"สบายดีค่ะ เย็นดี" น้องทิพย์สูดหายใจยาว "พี่อิฐไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ชอบทิพย์จะได้ใส่เสื้อ" เชี่ย..คำถามส่งหอกวัดใจ สองสาวเพื่อนซี้หัวเราะส่ายหัวไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะทำไปได้กระแซะโอบกอดให้ความอบอุ่น ได้เห็นน้องเพลินหัวเราะบ้างผมก็ชื้นใจ จากที่ดูเป็นคนเงียบๆพูดน้อยช่วงนี้ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่ แถมยังหลบหน้าหลบตา นี่ถ้าเมียไม่อยู่นะจะเดินเข้าไปดูดนมให้ดิ้นพราดๆให้ไอ้อั๋นกับหมอพีทล็อคคนละข้างจับสามสาวเด็กทุนขี้เงี่ยนเวียนเทียนเสียตรงนี้เลย
บิ๋มเริ่มบ่นว่าร้อนถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกทั้งที่อุณหภูมิในตอนนี้น่าจะไม่เกินสิบองศา ดูเหมือนงานมหกรรมฟาร์มโคนมของน้องทิพย์เมื่อสักครู่ทั้งที่จัดขึ้นต่อหน้าแต่กลับไม่ได้อยู่ในความสนใจรับรู้ของเธอเลย เอาแต่บ่นว่าร้อนจนผมห่วงว่าจะจับไข้ไม่สบาย หันไปมองแอมแปร์กำลังนั่งโงนเงนสะลึมสะลือใกล้จะหลับมิหลับแหล่
“แล้วอาพีทจะนอนไหนครับเนี่ย” ผมถาม
“ผมนอนไหนก็ได้ ที่นี่แอลเอ บ้านผม” หมอพีทขยิบตา
ใจนึงก็ห่วงปล่อยน้องทิพย์น้องเอิงน้องเพลินให้อยู่กับหมอพีท ตั้งแต่บิ๋มมาที่นี่ผมละอายใจไม่กล้าสบตาซึ้งกับน้องเพลินเหมือนเคย หยอกไก่กะว่าขอแค่พอชุ่มชื่นหัวใจใครจะไปรู้ว่าเมียจะตามมาถึงนี่ กรรมใครกรรมมันละกันวะ ตำรวจแม่งจะแห่กันมาเพราะพวกมึงโชว์นมกันหน้าบ้านนี่แหละ
“อั๋น..”
"คับ.."
“เดี๋ยวมึงประคองยัยแอมตามกูมา” เจ้าอั๋นยิ้มหน้าระรื่น มันถือโอกาสกระโจนเข้าโอบกอดแอมแปร์ ผมรีบพาบิ๋มเดินเข้าห้องนอนก่อนที่เธอจะร้อนจนแก้ผ้าตามน้องทิพย์ไปอีกคน คืนนี้มันบ้าๆบอๆเสียวสันหลังยังไงชอบกล
“มึงรู้จัก โอโจบุชโช่ ป่าววะ” หันไปเจอเจ้าอั๋นกำลังพยามหอมแก้มแอมแปร์อย่างทุลักทุเล
“รู้สิ โอโจ เทพีแห่งพายุ”
“แหม่ ถามรู้ตอบได้ยังกับกุมารทองเลยนะมึง ลองบีบนมหน่อยดิ๊ ปิ๊นๆ”
“ได้เหรอ..!” เจ้ากุมารทองยิ้มหน้าหื่น แกล้งมันเล่นๆไอ้อั๋นเสือกเอาจริงล้วงมือเข้าไปในเสื้อทั้งที่แอมแปร์ยังหลับไม่สนิทดี
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน